“ควันบุหรี่ไฟฟ้า พอท ภัยเงียบที่แฝงความน่ากลัวให้คนสูบและคนรอบข้างอย่างไม่รู้ตัว” เนื่องจากในควันบุหรี่ เต็มไปด้วยนิโคติน สารเคมี 7,000 ชนิด สารพิษมากกว่า 250 ชนิด และสารก่อมะเร็งที่มากกว่า 70 ชนิด หากเมื่อยิ่งสูบบุหรี่ไฟฟ้า พอท ในระยะเวลาที่ยาวนาน ก็ยิ่งเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บที่บั่นทอนชีวิตให้สั้นลง อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง ถึงแม้จะไม่ได้สูบเองก็ตาม แต่พิษร้ายจากควันของบุหรี่ไฟฟ้า พอท สามารถสร้างความอันตรายไม่ต่างกับตัวผู้สูบ หรืออาจจะมากกว่าตัวผู้สูบเองเสียด้วย
สูบบุหรี่ไฟฟ้า พอท เสี่ยงมากกว่ามะเร็งปอด
การสูบบุหรี่ไฟฟ้า พอท เป็นการทำลายสุขภาพ ทั้งต่อผู้สูบเองและผู้อยู่ใกล้ชิดที่สูดเอาอากาศที่มีควันบุหรี่เข้าไป เพราะควันบุหรี่ประกอบด้วยสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมีสารก่อมะเร็ง จากสถิติในประเทศไทย มะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย อันดับ 4 ในผู้หญิง และเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตเป็นอันดับ 1 เนื่องจากมักพบเมื่อเป็นระยะกระจายไปตามอวัยวะต่างๆ แล้ว โดยสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปอด คือการสูบบุหรี่ ฉะนั้นบุหรี่ไฟฟ้า พอท ไม่ได้พียงแค่มีความเสี่ยงแค่มะเร็งปอดเท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อมะเร็งเกือบทุกชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งช่องปาก มะเร็งคอหอย มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไต มะเร็งตับอ่อน มะเร็งปากมดลูก มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นต้น เนื่องจากในบุหรี่มีสารก่อมะเร็งมาก ทำให้เกิดมะเร็งได้หลายชนิด
อาการและการวินิจฉัยมะเร็งปอด
มะเร็งปอดส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก แต่จะมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเกิดโรคเมื่อมีการเจริญเติบโตของมะเร็งมากขึ้น และอาการจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ตำแหน่งของก้อนที่เกิดขึ้น โดยเนื้อร้ายนี้สามารถลุกลามและกระจายไปอวัยวะอื่น ๆ ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัวก็มักจะอยู่ในระยะโรคที่รุนแรงแล้ว ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกถึงสาเหตุของมะเร็งปอดได้ชัดเจนนัก แต่มีอาการที่พบได้ ได้แก่
- ไอเรื้อรัง
- ไอมีเสมหะปนเลือด ไอมีเลือดสด 25-50%
- เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก
- เสียงแหบ
- เจ็บหน้าอก
- น้ำหนักลด
- ไม่มีแรง
- เบื่ออาหาร
- ปวดตามตัวหรือกระดูก
- หายใจมีเสียงดังผิดปกติ
ซึ่งอาการเหล่านี้พบได้ในโรคอื่น ๆ แต่หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือสูบ ติดต่อกันนานกว่า 15 ปี ควรเข้ารับการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อเช็คดูว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ หากตรวจพบในระยะแรกมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้